ภาคภูมิกรุ๊ปเปิดตัวธุรกิจ

"คลีนิคดิน"

นวัตกรรมบริการทางการเกษตร

"คุณกฤษชนก" ประธานกลุ่มภาคภูมิกรุ๊ป

เปิดตัวธุรกิจ “คลีนิคดิน” ดูแลด้านให้บริการตรวจวัดคุณสมบัติของดินในลักษณะศูนย์ตัวแทนดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อดูแลและพื้นฟูสภาพของดินทางการเกษตรแบบครบวงจร

การเปิดตัว โครงการ “คลีนิคดิน” นวัตกรรมบริการใหม่สร้างอนาคตเกษตรไทยให้ยั่งยืน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ทำการบริษัทภาคภูมิการเกษตร เลขที่ 57/5 หมู่6 ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นายกฤษชนก ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานกลุ่มบริษัทภาคภูมิกรุ๊ป กล่าวถึง การตั้งบริษัท คลีนิคดิน จำกัด เป็นกิจการดูแลด้านให้บริการตรวจวัดคุณสมบัติของดินในลักษณะศูนย์ตัวแทนดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อดูแลและพื้นฟูสภาพของดินทางการเกษตรแบบครบวงจร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปรับปรุงสภาพดิน รวมถึงแร่ธาตุอาหารรอง-เสริม สารชีวภาพอินทรีย์ที่จำเป็นต่อพืชทุกชนิดการบริการตรวจคุณสมบัติและวัดค่าของดินเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความเข้าใจและรู้ถึงปัญหาที่จะเกิดกับพืชในการขาดธาตุอาหารในดินโดยจะได้รับคำแนะนำการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

บริษัท คลีนิคดิน จำกัด ก่อตั้งโดยกลุ่มบริษัทภาคภูมิกรุ๊ป

บริษัท คลีนิคดิน จำกัด ก่อตั้งโดยกลุ่มบริษัทภาคภูมิกรุ๊ป ซึ่งประกอบกิจการด้านการผลิตวัตถุดิบเพื่อการเกษตรรายใหญ่ของประเทศมายาวนาน กว่า 20 ปี ภายใต้การบริหารของภาคภูมิกรุ๊ปได้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยทุกชนิด และสารปรับปรุงดินรวมถึงแร่ธาตุทุกประเภท ที่มีคุณภาพสูง ที่มีความพร้อมทางด้านปัจจัยการผลิต อย่างครบวงจร ดังนี้

1.บริษัทเป็นเจ้าของวัตถุดิบที่จำเป็นในการผลิต เช่น ฟอสเฟตหิน เพอร์ไลต์แคลเซียม โดโลไมท์ ซีโอไลท์ ปูนมาร์ล และอุปกรณ์การผลิต

2. เป็นตัวแทนคู่สัญญาโรงโม่และแหล่งวัตถุดิบ

3.เป็นโรงงานผลิตปุ๋ย วัตถุดิบ และวัสดุปรับปรุงดินหลายชนิด พร้อมห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร

4.มีทีมงานด้านวิชาการ ที่มีความชำนาญด้านการเกษตร สามารถให้คำแนะนำด้านการเพาะปลูก รวมถึงการจัดการเกษตรทั่วไปได้อย่างเหมาะสม

5.มีคณะที่ปรึกษา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรด้วยความพร้อมในทุกๆ ด้าน และด้วยความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์อันยาวนานด้านการผลิตวัตถุดิบเพื่อการเกษตร ทำให้ลูกค้า สมาชิก และกลุ่มเกษตรกรทั่วไปทั้งในและต่างประเทศประเทศ เกิดความเชื่อมั่น และยอมรับ ในมาตรฐานการผลิต และคุณภาพของผลิตภัณฑ์

จากการที่ได้ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทร์ ปุ๋ยเคมี และสารปรับปรุงดิน ที่มีคุณภาพกว่า 20 ปีนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้บริษัท ฯประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการผลิต เช่น ฟอสเฟตหิน เพอร์ไลต์แคลเซียม โดโลไมท์ ซีโอไลท์ ปูนมาร์ล และอุปกรณ์การผลิต จนสามารถทำให้ธุรกิจของบริษัทฯอยู่แนวหน้าของประเทศได้ ซึ่งผลผลิตส่วนหนึ่งได้ส่งไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย อาทิ กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ขณะนี้ทางภาคภูมิกรุ๊ป ได้ก่อตั้งบริษัท คลีนิคดิน จำกัด โดยภารกิจดูแลด้านให้บริการ ตรวจวัดคุณสมบัติของดินในลักษณะศูนย์ตัวแทน หรือ แฟรนไชส์ เพื่อให้บริการและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พื้นฟูสภาพของดินทางการเกษตรแบบครบวงจร จุดเด่นของแฟรนไชส์ คลีนิดดิน มีรูปแบบร้านค้าที่ทันสมัย และระบบการจัดการภายในร้านที่ได้มาตรฐานระดับสากล สามารถขยายธุรกิจสู่ตลาดอาเชียน และสู่ตลาดระดับโลก ได้อย่างภาคภูมิใจ และสง่างาม “เราจะมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในด้านการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทร์ทรีย์ , ปุ๋ยเคมี , ปุ๋ยเคมี ธาตุอาหารรอง-เสริม และวัสดุปรับปรุงดินที่มีคุณภาพ ที่สามารถใช้อย่างเจาะจงในแต่ละพื้นที่ของประเทศให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเพื่อช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทย”

สำหรับแนวความคิดสร้างธุรกิจ แฟรนไชส์ คลีนิคดินนั้น ทางเราต้องการเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านการเกษตร การดูแลดิน ทั้งค้าปลีก ค้าส่ง และการให้บริการในรูปแบบต่างๆแบบครบวงจร โดยเปิดให้จองสิทธิ์ 1 อำเภอ 1 แฟรนไชส์ โดยชุดจุดเด่นดังนี้ คือมีศูนย์บูรณาการด้านวิชาการ ให้บริการที่มีระบบการจัดการมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

“เราได้ตั้งเป้าหมายจะขยายสาขาออกไปทั่วประเทศให้ได้ครบ 888 สาขาทั่วประเทศ ภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งนอกจากการขยายสาขาโดยบริษัทเองแล้ว ทางบริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ สามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจการ ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนนี้ ภายใต้ระบบอันทันสมัย โดยบริษัทฯ จะให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิด ให้ความรู้ ความเข้าใจในการบริหารงาน หลักการคัดเลือกสินค้า ระบบการเงิน มีแผนส่งเสริมการขาย และแผนการโฆษณาทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งจัดส่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการไปช่วยแนะนำ และแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณของสาขาควบคู่กันไป”

ส่วนเงื่อนไขและคุณสมบัติของตัวแทนสิทธิ์นั้นจะ ต้องมีทำเลที่เหมาะสมสามารถเดินทางเข้าถึงโดยสะดวก และต้องใช้เงินลงทุน 250,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่าดำเนินการต่างๆเช่น ค่าอุปกรณ์ ค่าเครื่องมือ ค่าอนุญาตสิทธิบัตร ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าสินค้า และค่าประสานงานเพื่อขออนุญาตจัดตั้งหรือเปิดให้บริการ