หน้าที่ของธาตุอาหารพืช ที่พืชจำเป็นต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโตออกดอก ออกผล
มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมีสีเขียว เร่งการเจริญเติบโตทางใบ หากพืชขาดธาตุนี้จะแสดงอาการใบเหลือง ใบมีขนาดเล็กลง ลำต้นแคระแกนและให้ผลผลิตต่ำ
มีหน้าที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจาย ของราก ควบคุมการออกดอก ออกผล และการสร้าง เมล็ด ถ้าพืชขาดธาตุนี้ระบบรากจะไม่เจริญเติบโต ใบแก่จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงแล้วกลายเป็น สีน้ำตาลและหลุดร่วง ลำต้นแกร็นไม่ผลิดอก ออกผล
เป็นธาตุที่ช่วยในการสังเคราะห์น้ำตาล แป้ง และโปรตีน ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบ ไปสู่ผล ช่วยให้เติบโตเร็วและมีคุณภาพดี ช่วยให้พืช แข็งแรง ต้านทานต่อโรคและแมลงบางชนิด ถ้า ขาดธาตุนี้พืชจะไม่แข็งแรง ลำต้นอ่อนแอผลผลิต ไม่เติบโต มีคุณภาพต่ำ สีไม่สวย รสชาติไม่ดี
เป็นองค์ประกอบที่ช่วยในการแบ่งเซลล์ การผสมเกสร การงอกของเมล็ด พืชขาด ธาตุนี้ใบที่เจริญใหม่จะหงิกงอ ตายอดไม่เจริญ อาจ มีจุดดำที่เส้นใบ รากสั้น ผลแตกและมีคุณภาพไม่ดี
เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยสังเคราะห์ กรดอะมิโน วิตามิน ไขมัน และน้ำตาล ทำให้สภาพกรดด่างในเซลล์ พอเหมาะและช่วยในการงอกของเมล็ด ถ้าขาดธาตุนี้ ใบแก่จะเหลือง ยกเว้นเส้นใบ และใบจะร่วงหล่นเร็ว
เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามิน ถ้าขาดธาตุนี้ ทั้งใบบนและใบล่างจะมีสีเหลืองซีดและต้นอ่อนแอ
ช่วยในการออกดอกและผสมเกสาร มีบทบาทสำคัญ ในการติดผลและการเคลื่อนย้ายน้ำตาลมาสู่ผล การเคลื่อนย้าย ของฮอร์โมน การใช้ประโยชน์จากไนโตรเจน และการแบ่งเซลล์ ถ้าพืชขาดธาตุนี้ ตายอดจะตายแล้ว เริ่มมีตาข้าง แต่ตาข้าง ก็จะตายอีก ลำต้นไม่ค่อยยืดตัว กิ่งและใบจึงชิดกัน ใบเล็ก หนา โค้งและเปราะ
ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ การหายใจ การใช้โปรตีน และแป้ง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์บางชนิด ถ้าพืชขาด ธาตุนี้ ตายอดจะชะงักการเจริญเติบโตและกลายเป็นสีดำ ใบอ่อนเหลือง และพืชทั้งต้นจะชะงักการเจริญเติบโต
มีบทบาทบางประการเกี่ยวกับฮอร์โมนในพืช ถ้าขาดธาตุนี้ พืชจะเหี่ยวง่าย ใบสีซีด และบางส่วนจะแห้งตาย
ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ มีบทบาทสำคัญ ในการสังเคราะห์แสงและหายใจ ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อน จะมีสีขาซีดในขณะที่ใบแก่ยังเขียวสด
ช่วยในการสังเคราะห์แสงและการทำงานของเอนไชม์ บางชนิด ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลือง ในขณะที่ เส้นใบ ยังเขียว ต่อมาใบที่มีอาการดังกล่าวจะเหี่ยวแล้วร่วงหล่น
ช่วยให้พืชใช้ในโตรเจนให้เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับการ สังเคราะห์ โปรตีน ถ้าขาดธาตุนี้พืชจะมีอาการคล้าย ขาดไนโตรเจน ใบมีลักษณะ โค้งคล้ายถ้วยปรากฏจุดเหลืองๆ ตามแผ่นใบ
ช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิเจน คลอโรฟิลล์ และแป้ง ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลืองซีดและ ปรากฎสีขาวๆ ประปรายตามแผ่นใบ โดยเส้นใบยังเขียว รากสั้นไม่เจริญตามปกติ
เมื่อมีการปลูกพืชลงบนดิน ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณของธาตุอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในดิน เนื่องจากในขณะที่พืชมีการเจริญเติบโต พืชจะดูดดึงธาตุ อาหารในดินไป ใช้และเก็บสะสมไว้ในส่วนต่างๆ ได้แก่ ใบ ลำต้น ดอก ผล จนถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตและนำออกไป จากพื้นที่ ธาตุอาหารที่สะสมอยู่ เหล่านั้นย่อมถูกนำออกไปจากพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ธาตุอาหารบางส่วนยังเกิดการสูญหายไปในรูปก๊าซ ถูกดินหรือสารประกอบในดินจับยึดไว้ บางส่วน ถูกชะล้างออกไปจากบริเวณรากพืช หรือสูญเสียไปกับการชะล้างพังทลายของดิน ดังนั้นการเพาะปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน โดยไม่มีการเติมธาตุอาหารลงไปในดิน ย่อมทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง และในที่สุด ดินจะกลายเป็นดินเหลวปลูกพืชไม่เจริญเติบโตอีกต่อไไป ในการปลูกพืชจึงต้องมี การใส่ปุ๋ยเพื่อ บำรุงดิน ช่วย เพิ่มธาตุอาหารพืชและคงระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินไว้อยู่เสมอ
ติดต่อสอบถามเรื่อง การสมัครฯ ติดตามเรื่องการจัดส่ง คอมมิชชั่น
> ส่งข้อมูลการสมัคร
> ส่งใบจองสินค้า
> ติดตามเรื่องคิวรถ การจัดส่ง
> สั่งซื้อสื่อ โบรชัวร์ เสื้อ อื่นๆ
วันจันทร์ ถึง วันเสาร์
09-00 ถึง 19.00 น.
ยกเว้นวันอาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์